
'พิมรี่พาย'เผยเคยถูกสอน'โชคดีเป็นคนไทย' โตมาอยากย้อนเลย
พิมรี่พาย เผยถูกสอนตั้งแต่เด็ก "โชคดีแค่ไหนที่เกิดเป็นคนไทย" โตมาอยากย้อนถาม "เคยไปเห็นเมืองนอกรึยัง" ทิ้งปริศนาขอบคุณใคร??? ทำให้รู้ก่อนตาย ไม่ตายไปแบบเข้าใจผิด
ปะทะเดือดแนวร่วม อาร์เคเคกำลังผสมนราธิวาสบุกล้อมพื้นที่เป้าหมาย หลังพบแหล่งหลบซ่อน “อำรัน มิง” อังคารที่ 15 กันยายน 2552 เวลา 07.29 น.
ปะทะเดือดแนวร่วม อาร์เคเคกำลังผสมนราธิวาสบุกล้อมพื้นที่เป้าหมาย หลังพบแหล่งหลบซ่อน “อำรัน มิง” มือวางบึ้มร้านอาหารสวนกล้วย พาสมุนสาดกระสุนเปิดทางหนีรอดไปได้อย่างหวุดหวิด จนท. ย้อนกลับมาค้นพื้นที่เป้าหมายในหมู่บ้าน พบเอ็ม 16 จำนวน 5 กระบอก ที่ถูกปล้นจากกองพันพัฒนาที่ 4 พร้อมกระสุนเพียบ ล็อกเจ้าของบ้านเค้นสอบ ด้าน “เทพเทือก” ควง “ผบ.ทบ.” ลงพื้นที่ร่วมงานศพอาสาสมัครทหารพรานผู้กล้า เชื่อฝีมือ “เจ๊ะกูสมาน”
เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 14 ก.ย. พ.ต.อ.นิตินัย หลังยาหน่าย ผกก.สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส พ.ท.ธนิต แสงจันทร์ ผบ.ฉก.นราธิวาส 38 พ.ท.จรัล เอี่ยมฐานนท์ รอง ผบ.กรมทหารพรานที่ 45 พ.ต.ต.ปรีชา กิ่มเกลี้ยง ผบ.ร้อย นปพ.นราธิวาส ที่ 2 ได้ร่วมสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ 120 นาย ใช้กฎอัยการศึกในการปิดล้อมตรวจค้นบ้านพักเลขที่ 197 หมู่ 4 บ้านบองอ ต.บองอ อ.ระแงะ ของ นายอับดุลเราะห์มาน จือแนะรือเต็ง อายุ 40 ปี หลังสืบทราบว่ากองกำลังติดอาวุธ ขบวนการอาร์เคเค กลุ่มนายอำรัน มิง ซึ่งเป็นผู้ลอบวางระเบิดร้านอาหารสวนกล้วย เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมา ได้หลบซ่อนตัวอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว เพื่อประชุมวางแผนก่อเหตุร้ายในช่วงเดือน รอมฎอน
เมื่อเจ้าหน้าที่ถึงเป้าหมายได้กระจายกำลังกันโอบล้อมบ้านพักหลังดังกล่าว แต่ชายฉกรรจ์ที่อาศัยอยู่ในบ้าน จำนวน 6 คน ได้ใช้อาวุธปืนสงครามยิงใส่กลุ่มเจ้าหน้าที่พร้อมทั้งได้กระโดดหลบหนีออกทางหน้าต่างและประตูหลังของบ้านพัก เจ้าหน้าที่จึงได้นำกำลังออกติดตามกลุ่มคนร้ายที่หลบหนีมุ่งหน้าเข้าไปยังสวนผลไม้จนเกิดการปะทะกันเป็นระลอก ๆ นานกว่า 15 นาที เสียงปืนสงบลงเจ้าหน้าที่ได้เข้าเคลียร์พื้นที่ และพบว่ากลุ่มคนร้าย จำนวน 5 คน มีอาวุธปืนครบมือ และ 1 ใน 5 คือ นายอำรัน มิง ได้อาศัยความชำนาญพื้นที่สามารถหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ไปได้อย่างหวุดหวิด
ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงได้นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมายหลังดังกล่าว และควบคุมตัวนายอับดุลเราะห์มาน จือแนะรือเต็ง เจ้าของบ้านไปสอบสวนขยายผล พร้อมทั้งพบวัตถุต้องสงสัยซุกซ่อนอยู่ใต้ถุนบ้านร้างที่สร้างไม่เสร็จห่างจากบ้านพักของนายอับดุลเราะห์มาน ประมาณ 50 เมตร เมื่อตรวจสอบพบว่าเป็น อาวุธปืนสงคราม เอ็ม 16 จำนวน 5 กระบอก และอาวุธปืนลูกซองยาว 5 นัด จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืนเอ็ม 16 จำนวน 180 นัด และกระสุนปืนลูกซอง จำนวน 19 นัด รวมทั้งรองเท้ายาง จำนวน 5 คู่ และเสียม 1 อัน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าอาวุธปืนเอ็ม 16 ทั้ง 5 กระบอก เป็นของกองพันพัฒนาที่ 4 ที่ถูกคนร้ายบุกปล้นเมื่อวันที่ 4 ม.ค. 47 ที่ผ่านมา ส่วนอาวุธปืนลูกซองยาว 5 นัดนั้น เป็นอาวุธปืนของที่ว่าการอำเภอระแงะ ที่คนร้ายยิง อส.เสียชีวิตและขโมยไปเมื่อปี 50 ที่ผ่านมา
ต่อมาเวลา 12.00 น. พ.ต.อ.พูนศักดิ์ ประเสริฐเมธ ผกก.สภ.ยะรัง จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีเจ้าหน้าที่ถูกยิงบนถนนสาย 410 (ปัตตานี- ยะลา) บริเวณบ้านบือแนกือบง ต.ประจัน อ.ยะรัง จ.ปัตตานี จึงรีบนำกำลังเดินทางไปตรวจสอบ พบเพียงปลอกกระสุนปืนอาก้า ตกอยู่ที่พื้นที่จำนวน 10 ปลอก ส่วนคนเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลปัตตานี ทราบชื่อ จ.ส.อ.สุทธิพงศ์ วงศ์สมบัติ จ.ส.อ.สมใจ นวลจันทร์ ส.อ.สมพาล ศรโพธิ์ ส.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ดวงดีแก้ว และพลทหารสมสมร ศรีสุวรรณ ทั้งหมดสังกัด ชุด ฉก.ปัตตานี 21 สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ส.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ได้ขับรถพากำลังออกลาดตระเวนมาถึงจุดเกิดเหตุได้มีคนร้ายซุ่มยิงจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
รายต่อมาเวลา 16.30 น. พ.ต.อ.มนัส ศิกษมัต ผกก.สภ.เมืองปัตตานี ได้รับแจ้งมีคนถูกยิงบนถนนภายในหมู่บ้านแกแม หมู่ 6 ต.บาราเฮาะ จึงนำกำลังไปที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตนอนตายจมกองเลือดอยู่ริมถนน ทราบชื่อ นายแวสะแม สะดีเดะ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 หมู่ 6 ต.บาราเฮาะ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้น ไม่ทราบขนาดที่ศีรษะ 1 นัด ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ ทะเบียน กบง 532 ปัตตานี ล้มคว่ำอยู่ สอบสวนทราบว่า ผู้ตายเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านดังกล่าว ก่อนเกิดเหตุขณะขี่รถโดยมีลูกชายนั่งซ้อนท้ายมาด้วยจะกลับบ้านพัก หลังจากไปรับลูกที่โรงเรียน มาถึงที่เกิดเหตุมีคนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาประกบยิงก่อนจะหลบหนีไป
วันเดียวกันที่กองการบินกรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสนาธิการทหารบก ได้เดินทางลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อรับฟังสรุปสถานการณ์ความไม่สงบ รวมถึงติดตามสถาน การณ์เหตุการณ์คนร้ายซุ่มโจมตีฐานปฏิบัติการของทหารพรานในพื้นที่ จ.ยะลา ทั้งนี้ นายสุเทพ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการปรับแผนในภาพใหญ่ แต่จะใช้ความระมัดระวังดูแลให้รอบคอบมากขึ้น เจ้าหน้าที่ต้องทำงานอย่างเต็มกำลัง ที่ผ่านมาเราเน้นเรื่องการเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนเราเป็นฝ่ายตั้งรับเสียมากกว่า ทำให้เกิดการเผอเรอหรือรั่วได้ จึงเกิดความเสียหาย ดังนั้น ต้องเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น ซึ่งรัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
ส่วนความคืบหน้า คนร้ายซุ่มยิงอาสาสมัครทหารพรานชุดพัฒนาสันติที่ 47-3 เสียชีวิต 5 นาย บริเวณหน้าสถานีอนามัยตาเซะ หมู่ 3 ต.ตาเซะ อ.เมือง จ.ยะลา เมื่อวันที่ 13 ก.ย. ที่ผ่านมา เกี่ยวกับความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว หน่วยข่าวด้านความมั่นคงระบุว่า คนร้ายที่ลงมือก่อเหตุน่าจะเป็นกลุ่มของ นายอาสมัน ดอฆอ หรือ เจ๊ะกูสมาน ที่เคยลงมือก่อเหตุ ยิงพระมรณภาพ ในพื้นที่ ต.ยุโป อ.เมือง จ.ยะลา นอกจากนี้ยังเคยฆ่าตัดคอชาวบ้าน ฆ่าเผา ผอ. โรงเรียน บ้านบาโด และก่อคดีอีกหลายคดี ซึ่งเจ้าหน้าที่ อยู่ระหว่างการติดตามตัวกลุ่มคนร้ายดังกล่าวแล้ว
ส่วนที่มัสยิดอัลมาดีละห์ บ้านลำดา หมู่ 3 ต.ยุโป อ.เมือง จ.ยะลา นายสุเทพ พร้อมคณะ ได้เข้าร่วมในพิธีฝังศพ อาสาสมัครทหารพราน โมฮัมหมัด มอลอ พร้อมทั้งมอบเงินช่วยเหลือแก่ นางปัทมา ปาแซ มารดาทหารกล้าด้วย จากนั้นเวลา 14.00 น. คณะของนายสุเทพ ได้เดินทางไปยังวัดสุวรรณากร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี พร้อมร่วมในพิธีรดน้ำศพ อาสาสมัครทหารพราน จิตรกร ศรสวัสดิ์ และ อาสาสมัครทหาร ประจักษ์ คำแหง ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย
ขณะเดียวกันที่กระทรวงมหาดไทย นายชาญ กุลถาวรวรากร กรรมการผู้จัดการบริษัท ดิจิตอล รีเสิร์ช แอนด์คอนซัลทิง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำสัญญากับกระทรวงมหาดไทยติดตั้งกล้องซีซีทีวี ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้มูลค่า 996 ล้านบาท ได้เดินทางเข้าพบ นาย ถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ที่กำกับดูแลการแก้ปัญหาภาคใต้ เพื่อชี้แจงกรณีที่สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทยได้ยกเลิกสัญญาเพราะบริษัทไม่ยอมติดตั้งกล้องและส่งมอบกล้องตามสัญญา โดยนายชาญ กล่าวชี้แจงว่า ขอสรุปปัญหาโครงการดังกล่าวว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการตีความของทีโออาร์ เช่น จำนวนสายใยแก้ว ระบบ เปรียบเทียบใบหน้าผู้ต้องสงสัย ที่ไม่มีการระบุรายละเอียดของงานติดตั้งชัดเจนก่อนลงนามในสัญญา โดยเฉพาะเรื่องสถานที่ ตำแหน่ง ระยะทาง และจำนวนสายใยแก้ว ทำให้การติดตั้งกล้อง รวมถึงการเดินสายใยแก้ว คลาดเคลื่อนไปจากตามที่ทีโออาร์กำหนด
นายชาญกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังเกิดปัญหาการตรวจรับงาน เนื่องจากการที่มีคณะกรรมการตรวจรับเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีความเห็นในการดำเนินงานไม่ตรงกัน ประกอบกับไม่มีผู้ตัดสินใจแก้ไขปัญหาเพื่อให้ดำเนินงานสำเร็จตามเป้าหมาย รวมถึง คณะกรรมการตรวจรับผิดนัดไม่ไปตรวจรับและไม่แจ้งให้บริษัททราบ เมื่อถาม มายังสำนักงานปลัดฯ กลับได้รับคำตอบว่าคณะกรรมการตรวจรับติดภารกิจต่างจังหวัด ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำผิดสัญญา จากนี้ไปทางบริษัทจะดำเนินการฟ้องร้องศาลปกครอง ในกรณีที่สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ทำผิดสัญญาต่อบริษัท ไม่ยอมมาตรวจรับงาน และมีการพยายามบ่ายเบี่ยง ไม่ยอมทำตามทีโออาร์ ส่วนการฟ้องทางแพ่ง ทางอาญาจะตามฟ้องทีหลัง เพราะเรื่องดังกล่าวส่งผลกระทบต่อบริษัทเป็นอย่างมาก ไม่สามารถประเมินค่าความเสียหายได้ เนื่องจากหลังจากนี้บริษัทอาจถูกขึ้นแบล็กลิสต์ จนไม่สามารถไปทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่นได้ และอาจถูกบริษัท bosh ของเยอรมนีที่สนับสนุนโครงการของบริษัทฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นจำนวนกว่าพันล้านบาทได้.